ไทยคว้าแชมป์ฟุตบอลอาเซียนคัพ 2022

ไทยคว้าแชมป์ฟุตบอลอาเซียนคัพ 2022 

นับว่าการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนคัพ 2022 หรือ “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็กทริก คัพ 2022 ในครั้งนี้ รอบชิงแชมป์ ไทย พบกับ เวียดนาม ในวันที่ วันที่ 16 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ทีมชายไทยชนะ เวียดนามในนัดที่สองไป 1-0 ประตู รวม 2 นัดที่ชนะ โดยทีมชาติไทยเอาชนะไปได้ 3-2 ประตู ป้องกันแชมป์อาเซียนคัพ และคว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 7 ได้อย่างสวยงาม

ดาวซัลโว และ MVP ประจำทัวร์นาเมนต์อาเซียนคัพ 2022

ทีมชายไทยคว้ารางวัลรางวัล MVP ประจำทัวร์นาเมนต์อาเซียนคัพ 2022 นี้ โดย ธีราทร บุญมาทัน กัปตันทีมชาติไทย และรางวัลดาวซัลโว เป็นของธีรศิลป์ แดงดา ที่ร่วมยิงทั้งหมด 6 ประตู โดยรางวัลนี้สร้างความปลื้มปิติและสร้างความดีใจ ให้กับองเชียร์ชาวไทยที่ส่งกำลังใจแน่นสนามและแฟนบอลที่ดูถ่ายทอดสด

นักกีฬาตัวจริงที่ลงสนามแข่งในรอบชิงชนะเลิศ

เกมนัดชิงชนะเลิศนี้ โคชทีมชาติไทย มาโน โพลกิ้งได้วางผู้เล่น ตัวจริงทั้ง 11 คน ลงแข่งในสนามนัดนี้ ประกอบไปด้วย 1.กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล (GK) 2.ศศลักษณ์ ไหประโคน 3.ธีราทร บุญมาทัน (C) 4.พรรษา เหมวิบูลย์ 6.สารัช อยู่เย็น 8.พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี 9.อดิศักดิ์ ไกรษร 12.กฤษดา กาแมน 15.ศุภนันท์ บุรีรัตน์ 18.วีระเทพ ป้อมพันธุ์ 21.ปรเมศย์ อาจวิไล ส่วน ธีรศิลป์ แดงดา ศูนย์หน้าตัวเก่งที่ยังคงมีอาการบาดเจ็บไม่สามารถลงเล่นนัดนี้ได้

กลยุทย์ในการลงเล่น

โคชทีมชาติไทย มาโน โพลกิ้ง” มีกลยุทธ์ในการเล่นยังคงใช้ระบบการเล่น 3-5-2 เหมือนเดิม โดยทีมชายไทยใส่ชุดสีน้ำเงินลงสนาม และได้ยึดไลน์อัพชุดเดิม โดยมีอดิศักดิ์ ไกรษร กับ ปรเมศย์ อาจวิไล ยืนในแนวรุก ส่วน ธีรศิลป์ แดงดา ยังได้รับอาการบาดเจ็บไม่สมารถลงสนามในนัดนี้ได้

รูปแบบการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซี่ยนคัพ 2022

ฟุตบอลอาเซี่ยนคัพมีรูปแบบในการแข่งขันในครั้งนี้ จะมี 9 ทีมที่มีอันดับสูงสุดที่ได้เข้ารอบโดยอัตโนมัติ ส่วนทีมที่มีอันดับ 10 กับ 11 จะต้องลงเล่นในรอบคัดเลือก โดย 10 ทีมจะถูกแบ่งออกเป็น2 กลุ่ม ที่มี 5 ทีม และเล่นในระบบจะพบกันทั้งหมด ซึ่งในแต่ละทีมจะต้องลงเล่นเป็นทั้งทีมเย้าและทีมเยือน ครั้งละ 2 นัด 

การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระหว่าง ทีมไทย พบกับ ทีมเวียดนาม

สำหรับบรรยากาศการแข่งขันนั้นนับว่าทั้งสนุกทั้งตื่นเต้นสำหรับผู้ชมในสนามเป็นอย่างมาก 

โดยเริ่มเกมในครึ่งแรก ทีมเวียดนามบุกหนัก ตั้งแต่นาทีที่ 8 โดย เหงียน เฮา ดุ๊ก ได้บอลริมเส้นฝั่งขวา พาบอลหักเข้ากลางแล้วเตะด้วยเท้าซ้ายแบบเต็มข้อ โชคดีบอลเหินข้ามคานออกไปจึงไม่เป็นประตู

และในนาทีที่ 19 นั้น กองกลางทีมชาติไทย พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ได้ใบเหลืองเป็นคนแรก ทำให้สถานการณ์เคร่งเครียด แต่ นาทีที่ 24 อดิศักดิ์ ไกรษร ได้ครองบอลหน้ากรอบเขตโทษของเวียดนาม ก่อนส่งบอลต่อไปให้ ธีราทร บุญมาทัน วิ่งมาซัดเต็มข้อด้วยเท้าขวา ทำให้ได้ประตู นำ 1-10 จากนาทีนี้ ได้อย่างสวยงาม

ภาพรวมในครึ่งแรก ทีมชาติไทยค่อนข้างครองเกมได้เหนือกว่า จบ 45 นาทีแรก ทีมชาติไทยออกนำเวียดนามก่อน 1-0 ประตู

ในครึ่งหลัง ทีมชาติไทยยังได้ครองบอลมากกว่า แต่ก็ถูกกองหลังเวียดนามสกัดบอลได้ตลอด จากนั้นสถานการณ์เริ่มเคร่งเครียดจากการที่ บดินทร์ ผาลา ผู้เล่นของไทยโดนใบเหลืองไปอีกใบ จากนาทีที่ 77 และนาทีที่ 84 ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ผู้เล่นของไทยก็โดนใบเหลืองเพิ่มไปอีก 1 ใบ ทำให้สถานการณ์ตรึงเครียด

และในช่วงท้ายเกม นาที่ที่ 90+5 กองกลางทีมชาติไทย พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ได้รับใบเหลืองอีกครั้ง จึงทำให้กลายเป็นใบแดง จึงต้องถูกให้ออกจากสนามแข่งขัน ทำให้สถานการณ์ตรึงเครียดเพิ่มมากยิ่งขึ้นจนจบเกม ไทยเฉือนเอาชนะ เวียดนาม ในนัดที่2 อีกครั้งสกอร์ 1-0 ประตู รวม 2 นัด ทีมชาติไทยเอาชนะไปได้ 3-2 ประตู

คว้าแชมป์ฟุตบอลอาเซียนคัพ 2022 หรือ เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็กทริก คัพ 2022 ไปครอง นับว่าสร้างความตื่นเต้นและดีใจและเป็นโบนัสพิเศษ ที่ทีมชาติไทยมอบให้กับแฟนบอลชาวไทยทั้งในสนามและแฟนบอลที่เชียร์ในการถ่ายทอดสดเป็นอย่างมาก

กองหน้า ได้แก่ ธีรศิลป์ แดงดา ทีมชาติไทย , เหงียน เทียน ลินห์ ทีมชาติเวียดนาม, ไฟซาล ฮาลิม ทีมชาติมาเลเซีย

สรุปรางวัล ในฟุตบอลอาเซียนคัพ 2022

ไทยคว้าแชมป์ายการนี้เป็นสมัยที่ 7 ต่อจากปี 1996, 2000, 2002, 2014, 2016, 2020 พร้อมรับเงินรางวัล 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 10 ล้านบาท) รองแชมป์ เวียดนาม รับเงินรางวัล 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดาวซัลโวยิง 6 ประตู ธีรศิลป์ แดงดา (ทีมชาติไทย), เหงียน เทียน ลิน (เวียดนาม) รับเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ (MVP) ธีราทร บุญมาทัน (ทีมชาติไทย) รับเงินรางวัล 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ

 

มาดามแป้ง ผจก.ทีมชาติไทยอัดฉีดรวม 20 ล้านบาท

มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ได้เตรียมเงินสำหรับเงินอัดฉีด ให้กับนักเตะทีมชาติไทย เมื่อรวมกับเงินอัดฉีดรอบแรก 10 ล้านบาท โดยหลังจบรอบแรกและรอบรองชนะเลิศ มีการอัดฉีดไปแล้วรอบละ 5 ล้านบาท รวมเป็น 10 ล้านบาท และรอบชิงชนะเลิศอัดฉีดเพิ่มอีก 10 ล้านบาท รวมเป็น 20 ล้าน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักเตะทีมไทยทุกคนที่เข้าร่วมศึกการแข่งขันในครั้งนี้