บัวขาว บัญชาเมฆ

“บัวขาว บัญชาเมฆ” ชนะน็อก เออร์แกน วาโรล ยกแรกแบบไร้นวม ในศึก BKFC 

ไฟต์แรกของ “บัวขาว บัญชาเมฆ” กับการเปิดตัวในรายการ BKFC (Bare Knuckle Fighting Championship) เเมื่อวันที่ วันที่ 4 ก.ย. 65 กับคู่ชกจากตุรกี เออร์แกน วาโรล ที่เป็นที่เป็นคู่เอกของรายการ ด้วยการชนะน็อกอย่างสวยงามในยกแรกเวลาเพียง 1:15 นาที โดยหลังเกมเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจว่า “ไม่คิดว่าจะสามารถเอาชนะได้เร็ว เพราะว่าการที่เราออกหมัดไปคิดว่ามันเบา แต่ที่ไหนได้ การที่กระแทกหมัดออกไป คือจริงๆ เราใส่นวมมาก่อน พอมันโดนเราไม่รู้สึกว่ามันแรงขนาดไหน พอมาต่อยมือเปล่าต่อยไปรู้สึกมันเข้าเนื้อ รู้สึกว่ามันถึงเป้ามากขึ้น”

รู้จักบัวขาว บัญชาเมฆ 

รู้จักกับ “บัวขาว บัญชาเมฆ” นักชกที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยองรับในวงการมวยทั่วโลก กล่าวอย่างนี้คงไม่เกินไปนักเพราะแชมป์ K1 สองสมัย และแชมป์อีกมากมายของเขา ทำให้บัวขาวไม่ได้ดังแค่ในประเทศแต่ยังเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ ชื่อจริงของเขาคือ ร้อยโท สมบัติ บัญชาเมฆ เกิดวันที่ 8 พ.ค. 2525 บัวขาวเป็นนักมวยไทยเชื้อสายกูย หรือ ส่วย และเคยเป็นนักมวยไทยสังกัดค่ายมวย ป.ประมุข ส่วนสูง 174 ซม. น้ำหนัก 70 กก.

นอกจากกีฬามวยแล้วเขายังชื่นชอบกีฬาฟุตบอลถึงขนาด เคยเล่นฟุตบอลอาชีพในไทยลีก ดิวิชั่น2 ให้กับสโมสรฟุตบอลอาร์แบค ในฤดูกาลปี 2014 ตำแหน่งศูณย์หน้า อีกด้วย แถมตัวเขาเองยังมีผลงานการแสดงในภาพยนตรไทย ออกรายการเกมส์โชว์ต่างๆ ซึ่งเป็นที่รู้จักทั้งวงการบันเทิงและวงการมวย ปัจจุบัน บัวขาวยังรับราชการทหารที่โรงเรียนกำลังสำรอง หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน และจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต

ประวัติ บัวขาว บัญชาเมฆ 

จุดเริ่มต้นของ บัวขาว หรือ “สมบัติ บัญชาเมฆ” เป็นบุตรของนายเล็ง กับนางปาน ครอบครัวบัญชาเมฆ มีบุตร 5 คน ชาย 2 หญิง 3 โดยบัวขาว เป็นบุตรคนที่ 4 เขาเริ่มเส้นทางอาชีพมวยไทย ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ เกิดที่อำเภอสำโรงทาน จังหวัดสุรินทร์ ได้เข้ากรุงเทพมาสังกัดค่ายมวย ป.ประมุข เมื่ออายุ 15 ปี

ด้านครอบครัว บัวขาวมีภรรยานอกสมรสคือ นางสาวอัญวีณ์ พรชัยวิบูลย์ หรือเก๋ มีลูกสาว 1 คน ด.ญ.พิมพ์ญาดา บัญชาเมฆ หรือน้องมีตังค์ และอีกชื่อหนึ่งน้องข้าวหอม ซึ่งเกิดเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2558  ปัจจุบัน บัวขาว ได้เข้ารายงานตัวที่โรงเรียนนายสิบทหารบก ค่ายธนะรัชต์ ศูนย์การทหารราบ ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เพื่อรับราชการเป็นทหาร

โดยได้รับตำแหน่งแรกเป็นรองผู้บังคับหมู่ หมวดบริการ กองร้อยบริการ กองบริการ โรงเรียนการกำลังสำรอง ศูนย์การกำลังสำรอง บัวขาวเป็นคนที่ไฝ่เรียนมากได้รับปริญญากิติมาศักดิ์อีก2ใบ ได้รับพระราชทานปริญญาบัตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาโท) สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ปี 2556 และรับพระราชทานปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาเอก) สาขาวิชายุทธศาสตร์ การพัฒนาภูมิภาค (กลุ่มการศึกษาและจัดการภูมิปัญญา)มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ปี 2557 อีกด้วย

บัวขาวในวงการมวย

บัวขาว ได้แชมป์เวทีมวยสยามอ้อมน้อย รุ่นเฟเธอร์เวท แชมป์ประเทศไทยรุ่นเฟเธอร์เวท และแชมป์ที่เวทีมวยสยามอ้อมน้อยในรุ่นไลท์เวท 

• พ.ศ. 2545 บัวขาวชนะเลิศมวยไทยมาราธอนโตโยต้า รุ่น 140 ปอนด์ สนามมวยเวทีลุมพินี 
• พ.ศ. 2547 ชนะเลิศรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ 2004 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
• พ.ศ. 2549 เข้าชิงชนะเลิศรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ ได้ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 และเป็นแชมป์ได้อีกครั้ง
• พ.ศ. 2550 เข้าแข่งขันรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ ในวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2550 บัวขาวสามารถผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้าย
• พ.ศ. 2551 เข้าแข่งขันรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ โดยบัวขาวแพ้น็อกให้กับ โยชิฮิโร ซาโตะ นักมวยชาวญี่ปุ่น 
• พ.ศ. 2552 เข้าแข่งขันรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ โดยคราวนี้สามารถเข้าถึงรอบ 4 คนสุดท้าย แต่ต้องมาแพ้คะแนนให้แอนดี้ ซาวเวอร์
• พ.ศ. 2554 เข้าแข่งขันในรายการไทยไฟท์ โดยเป็นฝ่ายชนะน็อค และในวันที่ 18 ธันวาคม ของปีเดียวกันนี้ซึ่งบัวขาวเป็นฝ่ายชนะ และครองแชมป์ในการแข่งขันครั้งนี้
• พ.ศ. 2555 ตกเป็นข่าวฮือฮาเมื่อได้หายตัวออกจากค่ายอย่างเป็นปริศนา หลังจากนั้นไม่นาน บัวขาวก็ได้ปรากฏตัวพร้อมเผยว่า ที่ต้องหนีออกจากค่ายเนื่องจากไม่พอใจในหลาย ๆ อย่าง และต้องการเป็นอิสระ ซึ่งทางค่าย ป.ประมุขก็ได้เผยว่า หากบัวขาวขึ้นชกต่อไป จะถือว่าผิดสัญญาตามกฎหมาย
• พ.ศ. 2556 บัวขาว ได้เป็นโปรโมเตอร์จัดการแข่งขันชกมวยเองในรายการ “แม็กซ์เวิลด์แชมเปี้ยน 2013″ซึ่งเป็นรายการการแข่งขันมวยไทยในระดับนานาชาติ ในแบบทัวร์นาเมนต์ โดยการแข่งขันเริ่มขึ้นในวันที่ 6 พฤษภาคม ปีเดียวกัน 

สถิติการชกของบัวขาว บัญชาเมฆ

ชนะ 227 ครั้ง โดยชนะน็อค 68 ครั้ง , แพ้ 23 ครั้ง, เสมอ 12 ครั้ง โดยมีเกียรติประวัติที่สำคัญดังนี้

• แชมป์ประเทศไทย รุ่นเฟเธอร์เวท (ที่สนามมวยลุมพินี) ปี 2544
• แชมป์ K-1 World MAX champion ปี 2004 และ 2006 เข้าชิงรอบสุดท้ายถึง 5 ครั้ง ได้แชมป์ 2 สมัย
• แชมป์ 2010 Shoot Boxing S-Cup World champion ปี 2553 คนไทยคนแรก และคนเดียวในประเทศไทย
• แชมป์ สภามวยไทยโลก ในพระบรมราชูปถัมภ์ WMC World champion ปี 2549, 2552, 2554, 2557
• แชมป์ สภามวยโลก WBC Muaythai Diamond World Championship ปี 2557
• แชมป์ ไหว้ครูมวยไทยสวยงาม สนามมวยลุมพินี ปี 2545
• ถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แชมป์มวยไทยไฟท์ ปี 2554, 2555
• ถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รางวัลนักกีฬาอาชีพดีเด่น ปี 2555
• ถ้วยพระราชทาน กษัตริย์อัลแบร์ตที่ 2 แห่งโมนาโค แชมป์ “มอนติคาโล ไฟต์ติง มาสเตอร์” ปี 2557
• กรรมการบริหารสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิงแห่งประเทศไทย และผู้จัดการทีมนักกีฬา คิกบ็อกซิงทีมชาติไทย ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์2021 ที่ประเทศเวียดนาม

บัวขาว ชกกับนักสู้ MMA

บัวขาวเคยชกกับนักสู้ MMA ในศึก K1 world max ที่ญี่ปุ่น เมื่อปี 2009 และไฟต์ล่าสุดในวันที่ 19 ส.ค 2565 ที่ผ่านมา ได้มีการชกแบบแมตช์พิเศษ Exhibition Kickboxing Match ของโปรแกรม KAT Presents Legend of Rajadamnern ในศึก ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ (Rajadamnern World Series: RWS) ระหว่าง “บัวขาว บัญชาเมฆ” ตำนานแม่ไม้มวยไทย ที่เคยคว้าแชมป์มาแล้วหลายที่ ปะทะกับ “โคตะ มิอุระ” นักชกดาวรุ่งจากญี่ปุ่นเป็นที่น่าจับตามองของแฟนๆชาวไทยเป็นอย่างมากผลการชกบัวขาวชนะแบบขาดรอยเช่นเดิม

ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน Mixed martial arts : MMA การชกแบบมวยสากล เป็นกีฬาผสมผสานศิลปะการต่อสู้ทุกอย่าง ทั้งแนวราบและแนวดิ่ง ทั้งบนพื้น และเป็นที่รวบรวมศิลปะการต่อสู้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น มวยไทย มวยปล้ำ ยูโด เทควันโด คิกบ็อกซี่ง  เป็นกีฬาผสมผสานศิลปะการต่อสู้ไว้ทุกรูปแบบรวมกัน

ส่วน K1 นั้นกติกาใช้ได้ทุกส่วนของร่างกายคล้ายกับมวยไทยเลย แต่ห้ามใช้ศอกจนบัวขาวลงแข่งและใช้เข่าจนล้มคู่ต่อสู้ได้มากมาย และกลายเป็นแชมป์ทาง k1 ถึงได้ออกกฎห้ามใช้เข่า ต่างกับ BKFC ที่ต่อยเหมือนมวยสากลสมัครเล่นแต่ชกด้วยมือเปล่า และเวทีเป็นวงกลมนั่นหมายถึงต้องน็อกคู่ต่อสู้เท่านั้นเพราะไม่สามารถต้อนเข้ามุมได้นั่นเอง ในปัจจุบันนี้บัวขาวนับว่าเป็นสุดยอดนักมวยระดับโลกที่มีสถิติชนะมากที่สุดอีก1คนที่น่าจับตามอง