ในบรรดาแวดวงลูกหนังแฟนๆฟุตบอลนั้น ส่วนใหญ่มักไม่พลาดชมการแข่งขันฟุตบอลลีกระดับโลกของทวีปยุโรป ซึ่งก็เป็นที่รู้กันดีว่าลีกที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายนั้น ก็คือพรีเมียร์ลีก ลาลีกา บุนเดสลีกา และกัลโซ่ เซเรียอา นับว่าเป็นท๊อปลีกการแข่งขันฟุตบอลที่มีแฟนๆติดตามกันอย่างล้นหลาม ซึ่งแต่ละลีกก็จะมีเป้าหมายและวิสัยทัศน์ของการบริหารจัดการต่างกันออกไป ลีกที่เคยดังก็ดับได้ และลีกที่เริ่มตกต่ำก็อาจได้ฐานแฟนกลับมาได้เช่นกัน แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงลีกอันดับ 5 ที่เราคุ้นหูถึงการมีอยู่ของการจัดการแข่งขัน แต่ไม่สามารถโด่งดังเทียบเท่าลีกที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ด้วยว่ามีเหตุผลเบื้องลึกอยู่นั่นเอง
แฟนที่ชื่นชอบการพนันบอลออนไลน์อาจจะคุ้นชื่อกับลีกเอิงแต่อาจไม่ติดหูเท่าพรีเมียร์ลีก และอีกหลายลีกที่ได้รับความนิยมมากกว่าลีกเอิง แต่เชื่อเถอะว่า ต่อให้ลีกเอิงถูกเปรียบเทียบหรือดูแคลนขนาดไหน แต่ยังยืนหยัดมาได้จนถึงทุกวันนี้ท่ามกลางคำปรามาสได้ก็แสดงว่าต้องมีอะไรดี
ว่ากันตามจริงเลยก็คือ ลีกเอิงนี้เป็นลีกฟุตบอลสูงสุดของประเทศฝรั่งเศส อยู่ภายใต้การบริหารของสหพันธ์ฟุตบอลของประเทศฝรั่งเศส ก่อตั้งกันมาตั้งแต่สมัยปี ค.ศ. 1932 มีการเล่นกันอย่างต่อเนื่องมาทุกปี จนกระทั่งได้หยุดไปชั่วคราวในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ฝรั่งเศสจัดว่าเป็นชาติที่เรียกได้ว่ามหาอำนาจในวงการลูกหนัง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปี 90 ที่เกิดนักเตะแข้งทองหลายคน ทั้งการเล่นแนวรับและแนวรุก และในยุคนั้นเชื่อได้เลยว่าไม่มีใครที่ไม่เคยคุ้นชื่อของนักเตะชื่อดังอย่าง ซีเนดีน ซีดาน ซึ่งนับได้ว่าเขาคือความสำเร็จของฝรั่งเศสในด้านของวงการลูกหนังเลยก็ว่าได้ และนับจากนั้นความสำเร็จของฝรั่งเศสในด้านนี้ก็ยาวนานต่อเนื่องมาอีกนับสิบปี ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดันและสวยงาม ทำให้แฟนที่ชอบการพนันบอลออนไลน์หันมาให้ความสนใจที่จะลงทุนในการพนันบอลในลีกเอิงมากขึ้นและหลายรายก็กลายเป็นแฟนตัวจริงของลีกเอิงไปแล้ว
แซงต์เอเตียนคือทีมที่ชนะเลิศในลีกเอิงมากที่สุดถึง 10 สมัย ส่วนโอลิมปิกมาร์กเซยได้แชมป์ 9 สมัย และทีมที่ชนะเลิศติดต่อกันมากที่สุด 7 สมัยก็คือโอลิมปิก ลียง ทีมที่ชื่อคุ้นหูในลีกเอิงที่แฟนๆนักพนันคุ้นชินกันดีก็จะมี ปารีส แซงต์ แชร์กแมง , โอลิมปิก มาร์กเซย ม โอลิมปิก ลียง เนื่องจากชื่อเสียงของลีกเอิงนั้นเด่นในเรื่องการผลิตนักเตะคนดังที่ไปเล่นในลีกดังอื่นๆมากมาย ทำให้สามารถทำเงินให้นักลงทุนได้อย่างมาก อย่างเช่นทีมโอลิมปิก ลียง ที่เคยครองแชมป์ถึง 7 ปีติด ที่ทำให้ช่วงนั้นราคาต่อทุกนั้ดอย่างน้อยต้องหนึ่งลูกเสมอไม่ว่าจะเจอกับทีมใดในลีกก็ตาม
แต่ปัจจุบันนี้ ประธานกลุ่น QSI นาสเซอร์ อัล เคไลฟี ได้เข้ามาเทคโอเมวอร์เพื่อเป็นเจ้าของสโมสร อีกทั้งมีดีกรีผู้ถือหุ้นของช่องกีฬา Bein Sports อีกด้วย เขาได้เข้ามาปฏิวัตพลิกรูปแบบของลีกเอิงเสียใหม่ เพื่อต้องการให้กลายเป็นลีกที่น่าจับตามองมากยิ่งขึ้น ทุ่มเงินซื้อนักเตะดังมาประดับสโมสรและก็ยังสามารถพาทีมได้คว้ารองแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกได้อีก ก็ค่อยๆทำให้ทีลูกหนังจากแดนน้ำหอมเริ่มมีดีกรีที่พอจะสูสีกับอีกสี่ลีกดังในยุโรปได้บ้าง ปัจจุบันนี้เรียกได้ว่าเป็นยุคของปารีส แซงต์ แชร์แมงที่เรียกได้ว่าแทบจะผูกขาดความเป็นผู้นำของลีกเอิง ซึ่งแฟนลูกหนังต่างเห็นได้ว่าคุณภาพนักเตะของทีม ฟอร์มการเล่น และฐานแฟนบอลขากทั่วโลกและแฟนนักพนันออนไลน์ก็เริ่มคุ้นกับทีมฟุตบอลจากฝรั่งเศสและนักเตะชื่อดังมาตั้งแต่ปลายยุค 90 และพอปี 1998 ทีมฝรั่งเศสได้แชมป์โลก ทำให้สายตาของแฟนบอลเริ่มจับจ้องนักเตะจากฝรั่งเศสและลีกในประเทศของฝรั่งเศสด้วยเช่นกัน
การเล่นฟุตบอลในประเทศฝรั่งเศสนั้น ต้องไล่กลับไปดูกันตั้งแต่การเริ่มสร้างทีมที่วางฐานมาตอนแต่การคัดเลือกนักเตะที่มีพรสวรรค์อย่างแท้จริงให้มาเข้าในระบบฟุตบอลเยาวชน ทั้งส่งเสริมและฝึกสอนให้นักเตะเยาวชนเหล่านั้นเข้าใจในรูปแบบการเล่นแบบเดียวกันทั้งลีก และก็จะมีความคล้าคลึงกันเกือบทุกทีมไม่ว่าจะเน้นการดึงเอาความถนัดและเทคนิคเฉพาะตัวของนักเตะแต่ละคนให้ออกมามากที่สุด เน้นการเล่นบอลบนพื้น ไม่ว่าจะฝึกคว่าแม่นยำในการครองบอล ผ่านบอล และการต่อบอลให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง สร้างโอกาสที่จะทำประตูโดยการผ่านบอลตามช่อง เมื่อพื้นฐานการฝึกนั้นได้ถูกเตรียมมาตั้งแต่สมัยเยาวชนทำให้นักเตะในลีกเอิงนั้นขึ้นชื่อในเรื่องของความสามารถในการเข้าทำเกมรุก และทุกทีมก็จะเน้นการทำเกมรุกใส่คู่แข่ง ทีมระดับหัวแถวก็จะมีอัตราทำประตูได้มากกว่า ส่วนทีมขนาดเล็กจะเน้นเกมรับเพื่อเก็บแต้ม
การแข่งขันของลีกเอิงจะเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม-พฤษภาคม มีทั้งหมด 20 ทีม โดยทีจะเล่นแบบเหย้าและเยือน รวมทั้งหมด 38 นัดตลอดฤดูกาลจส่วนใหญ่จะแข่งขันกันในช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ และวันธรรมดาก็จะเล่นในช่วงเย็น และการจะไม่มีการแข่งขันในช่วงสุดสัปดาห์สุดท้ายก่อนวันคริสมาสต์เป็นเวลาสองสัปดาห์ ทีมที่ชนะจะได้ 3 คะแนน เสมอได้ 1 คะแนน หากแพ้ก็จะไม่ได้คะแนน และจะจัดอันดับทีมตามผลคะแนน จากนั้นก็จะดูที่ผลต่างประตู และจำนวนประตูที่ทำได้ และในตอนท้ายฤดูกาลสโมสรใดที่มีคะแนนมากที่สุดก็จะได้ครองแชมป์
สาเหตุที่ถูกเรียกเช่นนี้ก็เนื่องจากตอนสมัยที่เนย์มาร์ย้ายจากบาร์เซโลน่า และมาอยู่กับปารีส แซงต์ แชร์แมงนั่นเอง เขาถูกแฟนๆและนักวิเคราะห์ทั่วโลกโจมตีอย่างหนักหน่วงโดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนบอลจากอังกฤษที่มองว่าเขาทิ้งอนาคตของตัวเอง เหล่าแฟนๆมองว่าทำไมเขาไม่ย้ายไปแข่งในลีกอันดับหนึ่งอย่างพรีเมียร์ลีกหรือไม่ก็อยู่ต่อเพื่อชิงความเป็นหนึ่งกับเมสซี่
แต่เขากลับเลือกไปอยู่กับทีมที่เล่นในลีกเอิง และก็แน่นอนว่าที่นั่นก็สามารถการันตีได้เลยว่าจะอย่างไรเสีย เขาก็ไม่มีทางพลาดแชมป์แน่ๆแถมทีมก็เก่ง บวกกับตัวเขาเพิ่มเข้าไปอีก ไม่มีทางพลาดแน่นอน และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ หลังจากที่เขาย้ายไป ก็สามารถโชว์เหนือกว่าคนอื่นๆในลีกได้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงลูกกระชากผ่าน 3-4 คน
เทคนิคแบบไหนก็ไม่มีใครหยุดเขาได้ จะยิงแบบไหนท่าไหนก็ไม่พลาดประตู พอจบซีซั่นเขาก็ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีและก็พาทีมคว้าแชมป์ลีกเอิงตามคาด นี่เองที่ทำให้แฟนบอลอังกฤษค่อนขอดเอาว่าลีกฝรั่งเศสมันก็แค่ลีกชาวนา เพราะนักเตะแต่ละคนก็เหมือนกับพวกทำไร่ทำนาตอนกลางวันและตอนเย็นก็เปลี่ยนชุดมาแข่งบอลต่อ
ส่วนนักบอลเก่งๆมืออาชีพไปเล่นในลีกนี้ ยังไงก็ไม่มีทางที่จะไม่ชนะอยู่แล้ว คือเหมือนกับแทบไม่มีอะไรจะต้องลุ้น กระแสที่แฟนบอลพากันหยามว่าลีกเอิงเป็นแค่ลีกชาวนานั้นมันมีเหตุผลอื่นร่วมด้วย คือสมโมสรจากลีกฝรั่งเศสแทบจะไม่ประสบความสำเร็จอื่นใดนอกจากครั้งเดียวที่ สโมสรทีม โอลิมปิก มาร์กเซย์ได้คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกในปี 1993
ซึ่งถ้าหากเทียบจำนวนแชมป์ยุโรปแล้ว ก็พบว่าสโมสรจากโปรตุเกสหรือรัสเซียยังได้แชมป์มากกว่าด้วยซ้ำ เมื่อไร้เกียรติประวัติในเวทียุโรปที่ทีมจากลีกอังกฤษ เยอรมัน สเปน หรืออิตาลี ทำให้ดูว่าทีมที่มาจากลีกเอิงนั้นดูเป็นทีมที่จัดว่าเหมือนอยู่คนละระดับชั้น และอีกข้อหนึ่งนั่นคือหากเป็นนักเตะคนเดียวกันที่เล่นในลีกอื่นจะดูเป็นผู้เล่นธรรมดาแต่ถ้าหากมาเล่นในลีกเอิงจะดูเป็นนักเตะระดับเทพขั้นมาทันที
ทำให้มองว่าลีกฝรั่งเศสนั้นมีมาตรฐานการเล่นที่ง่ายกว่าลีกอังกฤษ และอีกข้อที่ดูแล้วน่าจะเป็นข้อเท็จจริงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือ สโมสรจากฝรั่งเศสหลายๆทีมนั้นเป็นเหมือน Farm Team นั่นคือสโมสรนั้นปั้นนักเตะของตัวเองขึ้นมา โดยการคัดเลือกมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะรุ่นๆ เลือกเอาคนที่มีแววมีพรสวรรค์เอามาปั้นแต่ไม่ใช่เพื่อให้ประสบความสำเร็จของทีม แต่ทำเพื่อต้องการปั้นนักเตะของตนให้มีชื่อและเตะตานักลงทุนมากที่สุด
จากนั้นก็ขายนักเตะของตัวเองออกไปในราคาที่แพงที่สุด ซึ่งทีมแบบนี้ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จในระยะยาว เพราะนักเตะตัวดีนั้น ขายออกไปให้กับทีมอื่นเพื่อทำเงิน แทนที่จะเก็บไว้เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับทีมของตน ซึ่งทีมในลีกเองของฝรั่งเศสนั้นไม่ค่อยที่จะเป็นเป้าหมายของนักเตะสักเท่าไรนัก ส่วนมากจะมาอยู่เพื่อชุบตัวเองในช่วงระยะเวลานั้นๆ และถ้าเล่นดีก็จะย้ายไปอยู่กับทีมอื่นที่ดูทรงแล้วน่าจะมีอนาคตได้มากกว่า และที่เห็นกันมาตั้งอดีตเช่น เบนเซม่า,โรนัลดินโญ่, มาห์เรซ,ก็องเต้, ดร๊อกบาหรืออาร์ซา ก็เห็นได้ว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ในลีกเอิงนานๆ พอมีหนทางไปก็รีบย้ายไปทันที และสโมสรอื่นๆก็มักจะหากินด้วยการขายผู้เล่นของตัวเองทิ้งเช่นกัน
อย่างแชมป์ลีกในซีซัน 2016-2017 คือโมนาโก ที่เลือกขายผู้เล่นคีย์แมนนักเตะเกรดเอของตนทิ้งในช่วงซัมเม่อร์ ซึ่งถ้าเป็นทีมใหญ่ที่ต้องการให้ทีมของตนนั้นประสบความสำเร็จและได้แชมป์ให้มากที่สุด ก็คงจะเลือกที่จะเก็บนักเตะคุณภาพดีของตัวเองไว้ให้นานที่สุดและมากที่สุด จะไม่มีทางขายสตาร์ของตนให้กับใครเป็นอันขาด แต่นั่นไม่ใช่อุดมการณ์ของสโมสรนักเตะในลีกเอิงของฝรั่งเศส
ซึ่งก็เหมาะสมแล้วที่ลีกเอิงจะถูกเรียกว่าลีกชาวนา เพราะถ้ามองกันตามความเป็นจริงแล้ว อาชีพที่ทำการผลิตพืชผลทางการเกษตรและขายต่อให้กับคนอื่นนั่นก็คือชาวไร่ชาวนานั่นเอง จะว่าไป การที่ถูกเรียกว่าลีกชาวนา ก็ดูจะสมเหตุสมผลดีแล้ว และมีเหตุการณอีกหลายอย่างในแวดวงฟุตบอลจะรู้ได้ว่าเมื่อทีมอังกฤษได้เจอกัยทีมจากลีกเอิง ก็จะมีการแค้นกันเป็นพิเศษอย่างที่สังเกตได้ แต่ทำอย่างไรคนอังกฤษจะเลิกปรามาสทีมจากลีกเอิงสักที อย่างหนึ่งที่มีผู้วิเคราะห์กันไว้ก็คือทีมจากลีกเอิงต้องพัฒนาศักยภาพของทีให้แฟนทั่วโลกได้เห็นมากกว่านี้และไปให้ไกลถึงแชมป์ยุโรปให้ได้และหากเจอกับทีมจากลีกอังกฤษก็ควรจะเอาชนะให้เด็ดขาดไปเลย
เนื่องจากการแข่งขันฟุตบอลในลีกเอิงนั้นเป็นการแข่งที่เน้นกเมรับ มากกว่าเกมรุกดังนั้นหลายทีมจะใช้เกมรับและการป้องกันตังเพื่อให้ทีมตัวเองเสียประตูค่อนข้างน้อยมาก ก็ลองมาดูที่จำนวนนัดที่ลงแข่งและอัตราเฉลี่ยของโอกาสในการเสียประตูต่อนัดเพื่อเป็นแนวทางในการลงทุนด้านอัตราต่อรอง ดูจะเป็นแนวทางที่ปลอดภัยที่สุด ทีมที่ลุ้นแชมป์ตอนนี้มี 4 ทีม ผู้นำคือลีลล์ 70 ปารีส 69 แต้ม ตามด้วย โมนาโก และลียง ซึ่งดูทรงแล้วน่าจะตัดแต้มกันอง โปรแกรมการแข่งขันจากสถิติของทั้งสีทีมจาก 5 นัดที่เหลือ ก็ดูหนักหนาสาหัสพอกัน ปารีส แซงต์ แชร์กแมงน่าจะดูมีภาษีกว่าทีมอื่นถึงแม้ว่าแนวรับจะไม่โดดเดนเหมือนเดิมแต่ประสบปารร์ในการเป็นแชมป์ถือว่าเยอะกว่าและสามารถรับมือกับความกดดันได้ดี หากต้องการกระจายความเสี่ยงให้ลองเน้นเล่น 4 ทีมอันดับแรกเนื่องจากต่างฝ่ายต่างต้องการแต้ม ส่วนบอลตกชั้นหรือบอลรองของลีกดูแล้วน่าจะมีความเสี่ยงสูงเกินไป หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับกลุ่มแฟนที่ชื่นชอบการพนันฟุตบอลออนไลน์
ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารและโปรโมชั่นใหม่ จากคาสิโนออนไลน์และสปอร์ตบุ๊คจากพันธมิตรของเรา