เอาใจแฟน 2ล้อกับรายการ การแข่งขันมอร์เตอร์ไซต์ ที่คุณจะต้องลุ้นไปกับการบิดในสนาม กับโปรแกรมการแข่งขันอย่าง GP (Grands Prix) ประจำปี 2019 รายการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ในการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลกทางเรียบ การแข่งขันจะจัดขึ้นแบบเก็บคะแนน สะสมไปเรื่อยๆเป็นรายสนาม จะไปแข่งในประเทศต่างๆปกติจะแข่งกันที่ 18 สนาม แต่ได้เพิ่ม สนามช้างอินเตอร์เนชั่นเนล เซอร์กิต ของไทยเราเข้าไปด้วยเริ่มเมื่อปี 2018-2020 ซึ่งทำให้เพิ่มมาเป็น 19 สนาม
โดยในการแข่งโมโตจีพีนั้นจะแบ่งทีมแข่งเป็น 2 ประเภท
ประเภทแรก ทีมโรงงาน หรือ Factory Team ทีมโรงงานนี้มีพร้อมทุกอย่าง ในทุกด้านเทคโนโลยี ทีมงาน วิศวกรรม และทรัพยากรมากมายรวมไปถึงเม็ดเงินมหาศาล ที่จะทุ่มลงมากับทีม การได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ ยกตัวอย่างทีมดังๆก็ Movistar Yamaha, Ducati Team, Aprilia Gresini, Repsol Honda, ECSTAR Suzuki, Red Bull KTM เป็นต้น
ประเภทที่สอง ทีมสนับสนุน หรือ Satellite Team ทีมเหล่านี้จะไม่ค่อยมีงบประมาณมากเท่าไหร่ คือทีมที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตนั่นเอง คือผู้ผลิตจะช่วยสนับเรื่องในด้านต่างๆ เครื่องยนต์ หรืออะไลหล่ในทุกส่วน และทีมทั้งหมดหลังจากปรับให้มาใช้ ECU กลาง ตั้งแต่ปี 2016 ทำให้คุณภาพทีมสนับสนุกนั้นเทีบชั้นกับทีมโรงงานได้สบาย และขึ้นมาโดนเด่นอยู่ในอันดับต้นๆ อย่าง Cal Crutchlow นักบิดที่โดดเด่นเป็นตัวจี๊ดของรุ่น ทีมสนับสนุนเหล่านี้ได้แก่ LCR Honda, MarcVDS Honda, Avintia Ducati, Aspar Ducati, Pramac Ducati, Monster Yamaha Tech3 เป็นต้น มาดูกันดีกว่ามีสนามไหนบ้าง
การแข่งขันโมโตจีพี มีทั้งหมด 3 รุ่น และก็แข่ง 3 วัน
รุ่นแรก โมโต้จีพี 3 เป็นการใช้เครื่องยนต์ 4 จังหวะ ขนาด 250CC แบบ 1 สูบ มีมากกว่า 55 แรงม้า และรายการนี้คนที่จะลงแข่งได้ต้องอายุไม่เกิน 28 ปี ส่วนใครที่เพิ่งเข้าแข่งครั้งแรกในรุ่นนี้ ต้องอายุไม่เกิน 25 ปี
รุ่นที่สอง โมโตจีพี 2 เป็นขนาดเครื่องยนต์ 4 จังหวะที่ใหญ่ขึ้นมา คือ ขนาด 600CC เป็นแบบ 4 สูบเรียง หรือที่เรียก Inline ถูกกำหนดใว้ว่า ทุกทีมต้องใช้เครื่องยนต์ของค่าย Honda จะมีแรงม้ามกกว่า 140 แรงม้า ทุกทีมจะต้องจูนเครื่องตามของตัวเอง แต่ต้องอยู่ในกฏกติกา
รุ่นสาม โมโตจีพี รุ่นนี้เป็นรุ่นใหญ่สุดมันที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด เพราะเป็นรุ่นเครื่องยนต์ 4 สูบ จะเป็นแบบสูบเรียง หรือสูบ วี ก็ได้และมีแรงม้ามากกว่า 240 ขึ้นไป รุ่นนี้เป็นรุ่นใหญ่ที่สุดในรายการการแข่งขันแล้ว
การแข่งขันจะจัดกันทั้งหมดสามวันใน 1 สนาม
วันที่ 1 จะเป็นวันของรอบ Practice Day นั่นคือนักแข่งจะทำการซ้อมก่อน Free Practice มีแบ่งรอบ FP1, FP2
วันที่ 2 จะเป็นวันของรอบ Qualifying Day นั่นคือนักแข่งจะขี่ซ้อมก่อนรอบที่สาม FP3 แล้วเอาเวลาที่ดีที่สุด ของทั้งสามรอบมาดูว่าใครได้เวลาดี 10 ลำดับแรก ก็จะผ่านเข้าสู่รอบ Q2 ไปเลยโดย Q2 หรือ Qualifying 2 ที่เหลือ ตั้งแต่อันกับที่ 11 ไปเป็นจะต้อง Q1 ในส่วน FP4 จะเป็นการซ้อมเป็นการปรับจูนรถ ก่อนแข่งรอบ Qualifying Q1 และ Q2
- หลังจากผ่าน FP ก็มาถึงรอบ Q1 แข่งกันใครได้เวลาที่ดีที่สุด ลำดับ 1 และ 2 ส่วนหลังจากนั้น จะถูกจัดลำดับที่ กริดสตาร์ท ตั้งแต่ลำดับที่ 13 , 14 , 15 , 16 และถัดไป
- หลังจากนั้นถัดมาจะเป็นรอบ Q2 เอาลำดับที่ทำเวลาดีที่สุด 1-10 + สองอันดับแรกจาก Q1 เป็น 12 คัน เพื่อที่จะชิงลำดับที่จุดสตาร์ทที่ดีที่สุด หรือตำแหน่งผู้นำ โพซิชั่น
วันที่ 3 จะเป็นวันของรอบ Race Day จะขี่ WUP และ RAC นั่นคือนักแข่งจะขี่ Warm up หรือ WUP รอบนี้เป็นการอุ่นเครื่องวอร์มอัพ และการจูนรถครั้งสุดท้าย เพื่อเตรียมแข่งจริงในช่วงบ่ายช่วงที่ 2 จะเป็นรอบ Race แข่งขันจริงช่วงบ่าย รอบนี้ให้นักแข่งขี่วอร์มอัพก่อน 1 รอบ หากรถของนักแข่งเกิดปัญหา ให้เข้าเปลี่ยนรถที่พิทได้ แต่นักแข่งต้องออกสตาร์ทจากพิทเลนเท่านั้น ส่วนนักแข่งที่ไม่ได้เปลี่ยนรถ พอวนครบ 1 รอบ ก็เข้าประจำจุดสตาร์ทของตัวเอง และรอสัญญาณไฟ เพื่อเริ่มการแข่งขัน
นักแข่งที่น่าจับตาในปีนี้
1 หลังจากผ่านไปสี่สนามกล่าวได้เลยว่า” มาร์ค มาร์เกซ “นักแข่งชาวสเปน หมายเลข 93 จากทีม Repsol Honda ที่มาคว้าแชมป์ในสนาม ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เป็นคนแรกของการแข่งขัน โมโตจีพีในไทย และยังเป็นอดีตแชมป์ โมโต ทู , โมโต ทรีและแชมป์โมโตจีพี 2018 ด้วย ฤดูกาล หลังจากผ่านมา 4 สนาม มีคะแนนสะสมอยู่ 70 คว้าแชมป์ที่ เฆเรซ ด้วยเวลา 41 นาที 8.685 วินาที นำเป็นที่ หนึ่ง
2 อีกคนจากทีม Suzuki Ecstra “ อเล็กซ์ รินส์ ” นักแข่งชาวสเปน หมายเลข 42 เพื่อนร่วมชาติมาร์ค มาร์เกซ ที่คว้าแชมป์ สนาม 3 ที่อเมริกา เพราะมาร์เกซ สตาร์ทที่ตำแหน่งโพล มาพลาดล้มในรอบที่ 9 ออกจากการแข่งขันไป แต่ที่ เฆเรซ เร่งตามเต็มที่แต่อเล็กซ์ รินส์ ก็เข้าที่ 2 ตามหลังมา 1.654 วินาที จบ 4 สนาม คะแนนรวม 69 แต้ม อตีดแชมป์ เป็นคนแรกที่คว้าแชมป์ ในสนาม เซอร์กิต ออฟ ดิ อเมริกา ครบทั้งสามรุ่นทั้ง โมโตจีพี 2 , โมโตจีพี 3 , และล่าสุดโมโตจีพีรายการใหญ่สุด
3 “ อันเดรีย โดวิซิโอโซ “ หมายเลข 04 จากทีม Mission Winnow Ducati ที่เปิดสนามแรก ฤดูกาล 2019 ที่การ์ต้า เบียดเอาชนะ มาร์เกซ เข้าเส้นชัย 42 นาที 36.902 วินาที เฉือนมาร์เกซ ไปเพียง 0.023 วินาที ขึ้นยืนโพเดี้ยม คว้าแชมป์สนามแรกไปได้ ผ่านมาสีสนามคะแนรวมสะสม อยู่ 67 แต้ม สนามล่าสุดจบ ที่อันดับ 4 ต้องรอดู สนาม ที่ 5 แข่งที่ เลอม็อง เซอร์กิต ประเมศผรั่งเศษ ใครจะเข้าวินเพราะ โดวิซิโอโซ เป็นนักแข่งที่มาร์เกซ บอกใว้ว่าเขาคือคู่แข่ง ที่แข็งแกร่งและน่ากลัวในปี 2019 นี้
4 ดาวรุ่งอย่าง เจ้าหนู “ ฟาบิโอ ควอร์ตาเรโร่ “ ชาวฝรั่งเศษ ด้วยวัย 20 ปี 14 วัน จากทีม Petronas Yamaha SRT หมายเลข 20 ที่ตอนนี้เป็นนักแข่งอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ของโมโตจีพี ที่คว้าตำแหน่งโพลโพซิชันครั้งแรกในชีวิตในการออกสตาร์ตได้ ในสนามที่ 4 แต่ก็น่าเสียดายที่ต้องออกจากการแข่งขันไปก่อนหลังจากขับไปได้เพียง 12 รอบสนามเท่านั้น แต่ก็ถือว่า ยามาฮ่าประสบความสำเร็จไปอีกขั้น ในการผลักดันเด็กคนนี้ขึ้นมาสูรายการใหญ่ และคว้าตำแหน่งโพลไปได้ เหลืออีกตั้ง 15 สนามอะไรก็เกิดขึ้นได้ ปัจจุบันอยู่ที่ 13 มีอยู่ 17 แต้ม
5 ” วาเลนติโน่ รอสซี่ “ แชมป์โลก 7 สมัย ชาวอิตาลี ที่ปัจจุบันอายุ 40 ปี สังกัด Monster Energy Yamaha หมายเลข 46 ยังไม่ทิ้งลายมีคะแนนสะสม อยู่ 61 แต้ม อยู่อันดับ 4 ชื่อนี้ยังคงหน้ากลัวเสมอ
