จบไปแล้วกับรายการ One Championship กับศึก One Fight Night 2 เมื่อ 1 ตุลาคม 2565 ณ ประเทศสิงค์โปร ที่ผ่านมา "แสตมป์ แฟร์เทค" ไล่อัดสาวมาเลย์ชนะคะแนนขาด 3 ยกรังอันดับ 1 MMA รุ่นอะตอมเวต ส่วน "ดังก้องฟ้า บัญชาเมฆ" สู้เต็มที่แต่ก็พ่ายคู่แข่งในนัดเปิดตัว และ คู่เอกของรายการเป็นการคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 8 รุ่นสตรอว์เวตของ "ซง จิง หนาน"
สำหรับรายการนี้ "แสตมป์ แฟร์เทค" สู้ในกติกา MMA กับนักสู้สาวชาวมาเลย์เซีย "จีฮิน รัดซวน" ที่ทำน้ำลงมาต่อยในรุ่นอะตอมเวตไม่ผ่าน 115 ปอนด์ ก่อนจะมีการเจรจาเพื่อจ่ายค่าชดเชยตกลงจะชกกันในพิกัด 120.75 ปอนด์ เป็นแสตมป์ที่ต้องแบกน้ำหนักของคู่แข่ง
แต่ข้อเสียเปรียบเรื่องน้ำหนักก็ไม่เป็นปัญหา เพราะเธอเดินหน้าจัดหนักงัดมวยไทยใช้ลูกศอก สวนกลับคู่ต่อสู้อย่างเจ็บแสบ และยังสามารถป้องกัน จีฮิน ที่บุกด้วยการต่อสู้ทางภาคพื้นได้ทุกท่วงท่าบนเวที ทำให้สามารถเอาชนะคะแนนแบบขาดลอยไปได้ทั้ง 3 ยก และยังคงรั้งอันดับ 1 ของแรงกิ้งรุ่นอะตอมเวตได้อย่างต่อเนื่อง
ในศึก One Fight Night 2 ผ่านมามีการขึ้นชกชิงแชมป์โลกด้วยกันสองคู่ คู่เอกของรายการเป็น "ซง จิง หนาน" หรือฉายา เดอะแพนด้า แชมป์ 7 มาป้องกันแชมป์สมัยที่ 8 พบกับ ยอดนักชกสาวแกร่งแชมป์ในรุ่นอะตอมเวต "แองเจลา ลี" ที่ทำน้ำหนักขยับขึ้นมาชกในรุ่นสตรอว์เวตและเป็นท้าชิงเข็มขัดแชมป์เป็นครั้งที่สอง
โดย ซง จิง หนาน ก็สามารถย้ำแค้นในนัดชิงแชมป์โลกอีกครั้งไล่ต้อน แองเจลา ลี จนอยู่หมัดด้วยกติกา MMA ชนะคะแนนไปแบบเอกฉันท์คว้าแชมป์โลกรุ่นสตรอว์เวตในศึก ONE อีกครั้ง ครองบัลลังก์ต่อไป
คู่รอง ที่เป็นไฮไลท์ของรายการอีกคู่คือ “ไมกี เมซูเมกี” สาวมะกันสุดแกร่งจอมล็อกดาวน์รุ่ง ชกกับคู่ปรับเก่าจากแดนแซมบ้า บลาซิล เคลเบอร์ ซัวซา” ในรุ่นฟลายเวต 135 ปอนด์ คู่นี้เป็นการชกกันในกติกา ปล้ำจับล็อก (Submission Grappling) ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรายการ ONE
แล้วก็เป็น ไมกี ที่สามารถคุมเกมเหนือ เคลเบอร์ ใว้ได้ เอาชนะคะแนนแบบเอกฉันท์จากกรรมการทั้ง 3 ยก ทำให้คว้าแชมป์โลก ขึ้นอันดับ 1 ในรุ่นฟลายเวท กับกติกาใหม่แบบปล้ำจับล็อก เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ ของ One Championship
อีกเป็นสาวไทยสุดแกร่งที่มาเปิดตัวในรายการนี้ เป็นรายแรกแบบใหม่แกะกล่องกับ "ดังก้องฟ้า บัญชาเมฆ" ที่ต้องชกกับนักสาวจากฝรั่งเศษ "อนิสสา เม็กเซน" ที่เป็นเหมือนกระดูกชิ้นโตในกติกา มวยไทย 115.25 ปอนด์ เพราะตั้งต้นเกมจนจบเกมโดนไล่ต้อนอยู่ตลอดเวลา แต่ ดังก้องฟ้า ก็อาศัยลูกอึดแบบสู้ตายมีแลกตลอดสุดท้ายยืนหยัดครบ 3 ยก แต่ก็พ่ายคะแนนไปแบบเอกฉันท์
รุ่นสตรอว์เวตหญิง ระหว่าง ซง จิง หนาน ชนะคะแนนเอกฉันท์ แองเจลา ลี (ชิงแชมป์โลก กติกา MMA)
รุ่นฟลายเวต ระหว่าง ไมกี มูซูเมกี ชนะคะแนนเอกฉันท์ เคลเบอร์ ซัวซา (ชิงแชมป์โลก กติกา ปล้ำจับล็อก)
รุ่นอะตอมเวต ระหว่าง แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ ชนะคะแนนเอกฉันท์ จีฮิน รัดซวน (กติกา MMA 120.75 ป.)
รุ่นเฟเธอร์เวต ระหว่าง อิลยา เฟรย์มานอฟ ชนะทีเคโอ มาร์ติน เหงียน นาทีที่ 3:33 ของยกแรก (กติกา MMA)
รุ่นไลต์เวต ระหว่าง ฮาลิล อาเมียร์ ชนะน็อก ทิโมเฟย์ นาสติวคิน นาทีที่ 0:58 ของยกสอง (กติกา MMA)
รุ่นเฟเธอร์เวต ระหว่าง มารัต กริกอเรียน ชนะคะแนนเอกฉันท์ ไทฟุน ออสแคน (กติกา คิกบ็อกซิ่ง)
รุ่นเฟเธอร์เวต โอ โฮ เทก ชนะคะแนนไม่เอกฉันท์ ริวโก ทากาฮาชิ (กติกา MMA)
อนิสสา เม็กเซน ชนะคะแนนเอกฉันท์ ดังก้องฟ้า บัญชาเมฆ (กติกา มวยไทย 115.25 ป.)
ราเดอ โอพาชิช ชนะน็อก จิอานนิส สโตฟอริดิส นาทีที่ 1:52 ของยกสอง (คู่สำรองกติกา คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์)
ก่อนที่ แสตมป์ จะขึ้นรั้งอันดับ 1 รุ่นอะตอมเวต MMA ในรายการ One Championship เคยเป็นอดีตแชมป์โลก ONE ในคิกบ็อกซิ่งและมวยไทย ในรุ่นอะตอมเวต โดยเธอเริ่มเรียกวิชามวยไทยมาตั้งแต่ 5 ขวบ จากการฝึกสอนของพ่อเธอซึ่งนั่นก็ทำให้ แสตมป์ ได้ใช้วิชามวยไทยนี้สร้างชื่อมาเรื่อยๆ
กว่า 80 ไฟต์ที่ตะเวนชกในแถบภาคตะวันออกของไทย จนได้แชมป์มาในสองรุ่นในภาคตะวันออก และทำให้ได้เข้าไปสังกัดในค่าย "แฟร์เทค" ซึ่งความตั้งใจของเธอต้องการที่จะเปลี่ยน ไปชกมวยแบบผสมผสานอยู่แล้ว โดยไฟต์แรกในรายการ One Championship คือการชิงแชมป์โลก ONE คิ๊กบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต แล้วแสตมป์ก็ทำสำเร็จคว้าเข็มขัดเส้นนี้มาครอง
หลังจากนั้นเธอก็เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ คว้าเข้มขัดแชมป์ ONE มวยไทย มาครองได้อีกเส้น ทำให้เป็นผู้หญิงคนแรกที่คว้าแชมป์ในรุ่นเดียวกันแต่ต่างกติกา แสตมป์ เริ่มกอบโกยความสำเร็จมากขึ้นเรื่อย หันมาชกในกติกาของ MMA และคว่ำคู่ต่อสู้ในกติกานี้ได้หมดจนมาเอาชนะ จีฮิน รัดซวน ทั้งที่ต้องแบกน้ำปอนด์ขอคู่ต่อสู้
แต่ก็สามารถไล่ต้อนสาวแกร่งจากมาเลย์ ด้วยวิชามวยไทยสวนศอกใส่แบบไม่มียั้ง ปัดป้องท่าของ จีฮิน ได้หมดจนคู่ต่อสู้ไปไม่เป็น ชนะคะแนนแบบเป็นเอกฉันท์ทั้งสามยกทำให้ตอนนี้ขึ้นรั้งอันดับ 1 ของรุ่นอะตอมเวตในกติกา MMA รายการ ONE และตั้งความว่าะชิงเข็มขัดในรุ่นมาให้ได้ เพราะ แอเจล่า ลี ราชินีในรุ่นอะตอมเวตได้ทำน้ำหนักขึ้นไปต่อยในรุ่นสตรอว์เวตแล้ว และตอนนี้ความฝันของ แสตมป์ แฟร์เทค ก็ใกล้เป็นจริงแล้วกับนักชกหญิงที่สามารถคว้าแชมป์ รุ่นอะตอมเวต ได้ทั้งสามกติกา
ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารและโปรโมชั่นใหม่ จากคาสิโนออนไลน์และสปอร์ตบุ๊คจากพันธมิตรของเรา