พรีเมียร์ลีค

พรีเมียร์ลีก การแข่งขันฟุตบอลที่แฟนบอลทั่วโลกไม่ควรพลาด

ฟุตบอลจัดว่าเป็นกีฬาที่ทุกคนต้องรู้จักอย่างแน่นอนและฟุตบอลเรียกได้ว่าเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีหลายภาคหลายส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยและจำนวนเม็ดเงินหมุนเวียนนั้นเรียกได้ว่ามหาศาล ครั้งนี้ขอกล่าวถึงเทศกาลการแข่งขันฟุตบอลที่แฟนๆพนันบอลออนไลน์ต้องคุ้นหูและเชื่อว่าแฟนพนันบอลออนไลน์ทั่วโลกไม่มีทางพลาดอย่างแน่นอน

การแข่งขันรายการที่คุณอาจเคยได้ยินบ่อยๆได้แก่ พรีเมียลีก และแชมเปี้ยนลีก

แล้วการแข่งขันเหล่านี้คืออะไรและแตกต่างกันอย่างไร ?

พรีเมียร์ลีกประกอบด้วย 20 ทีมอันดับแรกของสโมสรฟุตบอลในอังกฤษเท่านั้นในขณะที่แชมเปี้ยนลีกเกี่ยวข้องกับ 32 ทีมสโมสรชั้นนำจากลีกต่างๆในยุโรป รูปแบบของพรีเมียลีกคือการแข่งขันแบบ 2 รอบ ในขณะที่แชมเปี้ยนลีกมีรอบแบ่งกลุ่มและรอบน็อคเอาท์ก่อนสิ้นสุดในแชมเปี้ยนลีกรอบชิงชนะเลิศ

พรีเมียร์ลีกคืออะไร

พรีเมียร์ลีกเป็นการแข่งขันฟุตบอลก็เหมือนกับการแข่งขันฟุตบอลแบบครั้งใหญ่ๆในประเทศต่างๆทั่วโลก เป็นการแข่งขันของประเทศอังกฤษที่มีทีมชั้นนำ 20 อันดับเข้าร่วมแต่ก็มีทีมจากเวลส์รวมอยู่ด้วย ทีมในพรีเมียลีกเป็นทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกก็ว่าได้เนี่องจากมาตรฐานการคัดเลือกทีมที่จะสามารถเข้าร่วมการแข่งขันนั้นสูงมาก โดยที่ทุกทีมเล่นกันเองตลอดทั้งฤดูกาลฟุตบอลเพื่อดูว่าใครจะขึ้นเป็นจ่าฝูงและคว้าแชมป์ของกลุ่มและทีมใดที่ชนะก็จะได้ชื่อว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดของฟุตบอลอังกฤษ

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการวัดจำนวนทีมในการแข่งขันหลักเท่านั้นและจะมีบางทีมที่เกี่ยวช้องในรอบคัดเลือกซึ่งไม่สามารถผ่านเข้ารอบได้และด้วยเหตุผลทางประวัติศาสตร์อาจเป็นไปได้ว่าทีมเวลส์บางทีมสามารถเล่นในพรีเมียลีกได้เช่นกัน 

พรีเมียลีกจะเริ่มการแข่งขันในเดือนสิงหาคมและสิ้นสุดในเดือนพฤษภาคม การแข่งขันพรีเมียร์ลีกมีการเล่นเกือบทึกสัปดาห็ นอกเหนือจากการะแข่งกระชับมิตรของนานาชาติและวันหยุดสุดสัปดาห์ที่สงวนไว้สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วย แต่ถ้าคุณไม่เคยติดตามพรีเมียร์ลีกมาก่อนนี่คือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เพื่อทำความเข้าใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทีมในพรีเมียร์ลีกเป็นทีมที่ดีที่สุดในโลกเพราะมีมาตรฐานสูงมาก โดยที่ทุกทีมจะต้องเล่นแบบพบกันเองตลอดทั้งฤดูกาลฟุตบอลเพื่อดูว่าใครจะขึ้นเป็นจ่าฝูงและคว้าแชมป์กลุ่ม และจะได้ชื่อว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดในฟุตบอลอังกฤษ ถ้าทีมทำคะแนนได้ไม่เพียงพอเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลก็ตกอันดับไป  เช่นเดียวกับทีมที่มีคะแนนมากที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ชนะในพรีเมียร์ลีกของปีนั้น ส่วนทีมที่มีคะแนนน้อยที่สุดก็จะตกอันดับไปอยู่ท้ายตาราง   เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลฟุตบอลที่แข่งแบบเจอกันทุกทีม ทีมในพรีเมียร์ลีกสามทีมที่ทำคะแนนได้ไม่ดีพอ จะถูกดร็อปลงสู่การแข่งขันระดับล่างซึ่งเรียกว่าแชมเปี้ยนชิพ หรืออีกอย่างหนึ่งคือทีมที่ตกชั้น ! และทีมเหล่านั้นจะถูกแทนที่ด้วยสามทีมที่ดีที่สุดจากแชมเปี้ยนชิพที่สามารถทำผลงานได้ดีที่สุดในฤดูกาลนั้น  ซึ่งจะได้เลื่อนขั้นขึ้นมาสู่การพรีเมียร์ลีก  ส่วนทีมที่ตกชั้นก็จะต้องเล่นในรายการด้านล่างสำหรับฤดูกาลหน้าและจะต้องใช้เวลาในฤดูกาลนั้นแข่งขันกันอย่างหนักหน่วงเพื่อลุ้นการเลื่อนชั้นในการที่จะได้กลับขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกในปีต่อไป ซึ่งนับว่าไม่ง่ายเลย

จำนวนการแข่งขัน หากทีมที่คุณชอบอยู่ในพรีเมียร์ลีก พวกเขาจะเล่น 38 นัด นั่นเป็นเพราะว่าเขาจะต้องเล่นกับอีก 19 ทีมในลีกนี้ทั้งแบบเหย้าและเยือน

ขนาดทีม แต่ละสโมสรในพรีเมียร์ลีกจะมีผู้เล่นได้เพียง 25 คนเท่านั้น

ทีมใดสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้บ้าง

เพื่อให้มีคุณสมบัติในการได้เข้าร่วมการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ทีมนั้นจะต้องเป็นหนึ่งใน 20 ทีมฟุตบอลชั้นนำที่อยู่ในปีระมิดช่วงบนของทีมฟุตบอลออังกฤษ แต่หากทีมนั้นเริ่มต้นจากจุดต่ำสุดของปิรามิด ทีมนั้นก็จะต้องได้รับการเลื่อนขั้นไปยังระดับต่างๆอละในที่สุดก็จะไต่เต้าไปถึงระดับพรีเมียร์ลีก  หนึ่งในการแข่งขันที่ทรหดที่สุดคือ EFL Championship ซึ่งเป็นระดับที่สองของฟุตบอลอังกฤษ  มี 24 ทีมที่แข่งขันกันเพื่อชิง 3 ตำแหน่งในพรีเมียร์ลีก ทีมที่อยู่ในอันดับ 3 ถึงอันดับที่ 6 จะแข่งขันกันในรอบตัดเชือกเพื่อชิงแชมป์ นี่เป็นหนึ่งในการแข่งขันที่เข้มข้นที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีตำแหน่งในพรีเมียร์ลีกเป็นเดิมพัน !

กฏการยืมตัวผู้เล่นของพรีเมียร์ลีก

การยืมตัวผู้เล่นในการแข่งขันในลีกต่างๆมีความแตกต่างกันออกไปบางประการ สำหรับพรีเมียร์ลีกได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าผู้เล่นที่ถูกยืมตัวมาจะไม่สามารถเล่นให้กับสโมสรแม่ของพวกเขาได้ในการแข่งขันพรีเมียร์ลีก 

พรีเมียร์ลีกหรือแชมเปี้ยนลีกมีชื่อเสียงมากกว่ากันหรือไม่ ?

พรีเมียร์ลีกเป็นหนึ่งในลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก แม้ว่าจะมีการแข่งขันที่ดุเดือดจากลีกชั้นนำอื่นๆของยุโรปก็ตาม ในขณะเดียวกันยุโรปเป็นที่รุ้จักกันว่าเป็นทวีปที่มีทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกดังนั้นการชนะแชมเปี้ยนลีกอาจถูกมองว่ามีเกียรติมากกว่า แต่พรีเมียร์ลีกก็เป็นหนึ่งในลีกชั้นนำของโลกและผู้เล่นหลายคนก็ใฝ่ฝันที่จะเล่นในทีมที่ได้แชมป์ อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเที่ยบกับแชมเปี้ยนลีกแล้ว เขาก็อยากจะคว้าแช้มป์ในแชมป์เปี้ยนลีกมากกว่าเพราะมันอาจจะเทียบเท่ากับการคว้าแชมป์บอลโลกเลยทีเดียว 

จะเกิดอะไรขึ้นกับทีมที่ได้คะแนนไม่เพียงพอหลังจากสิ้นสุดฤดูกาล

ทีมที่ได้คะแนนมากที่สุดก็จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ส่วนทีมที่คะแนนน้อยที่สุดอยู่ท้ายๆตาราง เรียกได้ว่าตกชั้นลงไปสู่การแข่งขันแชมป์เปี้ยนชิปเพื่อไปเล่นในรายการแข่งขันระดับล่างสำหรับฤดูกาลหน้า และจะต้องใช้เวลาในฤดูกาลนั้นต่อสู้เพื่อลุ้นเลื่อชั้นเพื่อกลับขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกในปีต่อไป ซึ่งนับว่าไม่ง่ายเลย เมื่อเป้าหมายสูงสุดคือการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่สำหรับทีมที่เข้าอันดับที่ 2,3 และ 4 ก็ถือว่าเป็นที่น่ายินดีไม่แพ้กัน นั่นเป็นเพราะว่าทีมที่จบฤดูกาลในสี่อันดับแรกจะได้ตำแหน่งในการแข่งขันที่เรียกว่า Champions League (เพื่อไม่ให้สับสนกับ Championship ซึ่งจะเป็นการแข่งขันที่ต่ำกว่า  Premier League! ) แชมเปี้ยนลีกเป็นการแข่งขันสำหรับทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดในยุโรป ดังนั้นการมาอยู่ในท็อปโฟร์ของพรีเมียร์ลีกทำให้ทีมมีโอกสวเล่นในการแข่งขันที่สำคัญที่สุดในฟุตบอลยุโรป  การแข่งจันแชมเปี้ยนลีกจะเล่นกันในวันอังคารและวันพุธ  ในขณะที่พรีเมียร์ลีกส่วนใหญ่จะเล่นในวันเสาร์และวันอาทิตย์ ซึ่งหมายความวาทีมที่เล่นควบในทั้งสองรายการต้องเล่นเกมมากกว่าทีมสโมสรอื่น กล่าวก็คือในพรีเมียร์ลีกนั้น  20 ทีมจะแข่งแบบพบกันหมด ทีมชนะจะได้ 3 คะแนน ทีมเสมอได้ 1 คะแนน และทีมที่แพ้จะไม่ได้คะแนนใดๆ และเมื่อหมดฤดูกาล 3 สโมสรที่คะแนนน้อยที่สุดจะตกไปเล่นในฟุตบอลลีกรอง นั่นคือลีกแชมเปี้ยนชิป ส่วน 4 ทีมที่อันดับดีที่สุดจะได้ผ่านเข้าไปเล่นในยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก โดยสามทีมอันดับแรกจะเข้าไปรอในรอบแบ่งกลุ่ม  ส่วนทีมอันดับที่ 4 จะต้องแข่งรอบเพลย์ออฟอีกครั้ง ส่วนอันดับที่ 5 จะได้เล่นยูฟ่า ยูโรปาลีก และทีมที่ชนะเลิสการแข่งขันฟุตบอลถ้วยภายในประเทศจะได้ไปเล่นในยูโรปาลีกโดยอัติโนมัติ หากมีกรณีที่ทีมอันดับ 1-4 ขนะการแข่งขันฟุตบอลคัพภายในประเทศ ดังนั้นสิทธิ์การแข่งยูฟ่า-ยูโรปาลีก จะได้อันดับ 6และ 7 ของพรีเมียร์ลีกแทน ในเมื่อการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกคือที่สุดของที่สุด แต่การแข่งขันฟุตบอลที่ต่ำกว่าพรีเมียร์ลีกคือแชมเปี้ยนชิพ และก็มีการแข่งขันภายใต้ลีกนั้นอีกมากมาย ซึ่งจะลงไปที่ดิวิชั่นในพื้นที่เฉพาะของประเทศแล้วแต่สโมสรท้องถิ่นใดจะสามารถสร้างชื่อเสียงและผ่านการคัดเลือก ซึ่งทีมใดสโมสรใดในอังกฤษก็สามารถเข้าร่วมได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเจ๋งขนาดไหนจึงจะผ่านมาตรฐานการคัดเลือกให้เข้าสู่การแข่งขันในระดับพรีเมียร์ลีกได้ ซึ่งเอาเข้าจริงๆแล้วอาจจะต้องใช้เวลาหลายปีทีเดียว